พล.ต.เทศนฤทธิ์ กสิบุตร รอง ผอ.กอ.รมน.เลย ร่วมกับ พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ นพโพธิพงศ์ รอง ผบก.ทปส. พ.ต.อ.สมคิด ทิพยจักรพงศ์ ผกก.3 บก.ปทส. นายเกียรติพงษ์ ทิพเสนา นายอำเภอปากชม สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ ปทส. ตำรวจ ตชด.246 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าของนายทุนใหญ่จาก จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ซึ่งเข้ามาทำการว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปบุกรุก แผ้วถาง ตัดต้นไม้ จนกลายเป็นภูเขาหัวโลน จำนวน 8 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 430 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาแก้ว ป่าดงปากชม ห่างจากบ้านห้วยพิชัย ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม ประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นรอยต่อ 3 จังหวัด คือ เลย อุดรธานีและหนองคาย ด้านฝ่ายปกครองเตรียมดำเนินการด้านกฏหมายและวินัยกับกำนันในพื้นที่ ที่มีพฤติกรรมการสนับสนุนการกระทำของชาวบ้านดังกล่าว
พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ นพโพธิพงศ์ รอง ผบก.ปทส. กล่าวว่า จากการที่ได้ขึ้นบินสำรวจพื้นที่ที่ถูกชาวบ้านบุกรุกจากการว่าจ้างของนายทุนจากภาคใต้ พบว่าแหล่งต้นน้ำได้ถูกทำลาย มีการแผ้วถางเตียนโล่เป็นบริเวณกว้าง เพื่อเข้าไปปลูกต้นยางพาราและต้นปาล์ม อายุระหว่า 3- 5 ปี รวมไปถึงทำการเกษตรในรูปแบบเกษตรเชิงเดี่ยว ปลูกข้าวโพด กล้วย เบื้องได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินคดีตามกฏหมายแก่ผู้เกี่ยวข้องทันที
ด้าน พล.ต.เทศนฤทธิ์ กสิบุตร รอง ผอ.กอ.รมน.เลย ระบุว่า พื้นที่ป่าเขาแก้ว และป่าดงปปากชม พบมีการบุกรุกอย่างรวดเร็ว สืบทราบว่ามีกลุ่มนายทุนทางภาคใต้ได้เข้ามาว่าจ้างให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปบุกรุก แล้วให้ชาวบ้านเช่าทำการเกษตร โดยเริ่มแรกจะเป็นการทำการเกษตรทั่วไป ปลูกข้าวโพด กล้วย ต่อมาก็ปรับเปลี่ยนเป็นปลูกยางพาราและต้นปาล์ม จากการข่าวพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ คือ กำนันในพื้นที่ให้การสนับสนุนชาวบ้านบุกรุกป่าสงวนเพื่อนำไปขายให้นายทุน
นายเกียรติพงษ์ ทิพเสนา นายอำเภอปากชม กล่าวว่า ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในท้องที่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล และรวบรวมพยานหลักฐานได้อย่างครบถ้วน และพร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการทั้งทางกฏหมายและวินัยต่อกำนันในท้องที่ เพื่อเอาผิดให้ถึงที่สุด
