เฒ่าทะเล (2)

เฒ่าทะเล (2)

เรื่องเล่าชาวประมงพื้นบ้าน จ.กระบี่ ตอนที่ 2

ตาซ่าย เฒ่าทะเลกระบี่

ที่บ้านคลองรั้วก็มีเฒ่าทะเลเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ “ตาซ่าย” ซึ่งเป็นเขยบ้านคลองรั้ว

พ่อของตาซ่ายเป็นคนจีน เข้ามาดูแลหลุมถ่าน ซึ่งคนจีนเป็นผู้สัมปทานทำไม้ในป่าชายเลน เมื่ออายุ 19 ปี ตาซ่ายแต่งงานกับ “ยายหวิน” ซึ่งอายุ 17 ปี ยายหวินเป็นคนคลองรั้ว เป็นลูกชาวประมง มีเชื้อสายชาวจีนเช่นกัน

บ้านของตากับยายเป็นบ้านไม้ใต้ถุนต่ำ หน้าบ้านมีกระดาษสีแดงเขียนข้อความภาษาจีนแปะติดไว้ รอบ ๆ บ้านเป็นสวนปาล์มเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ เป็นรายได้เสริม รายได้หลักมาจากการทำประมง

“อยู่กับเล กินกับเล เลี้ยงลูกกับเล อยู่กันแบบพอเพียง เลคือชีวิต” ยายหวินอธิบายถึงชีวิตของตน ซึ่งมีความผูกพันกับทะเล

ตาซ่าย กับยายหวิน

ตากับยายอยู่กินกันมากว่า 50 ปี ตอนนี้ตาซ่ายอายุ 68 ปี ยายหวินอายุ 66 ปี ทุกวันนี้ตายังคงจับสัตว์น้ำใกล้บ้าน ส่วนในฤดูกาลตักแมงกะพรุน ตาจะเดินทางไปตักแมงกะพรุนต่างถิ่น ไปไกลถึงพังงา และภูเก็ต โดยมีลูกกับหลานผลัดเปลี่ยนเป็นผู้ช่วย แต่ในบางปีตาก็ไปทำประมงคนเดียว

ห๊ะ! ตาเคยทำประมงคนเดียว ฉันสงสัยว่าทำได้อย่างไร โดยปกติชาวประมงพื้นบ้านจะทำประมง 2-3 คน คนหนึ่งจะควบคุมเรือ อีกคนหรือสองคนจะวางอวน วางเบ็ด หรือทำงานประมงอื่น ๆ

ตายิ้ม และพูดด้วยเสียงทุ้มแบบคนสุขุมใจดีว่า “ออกเลคนเดียวทำได้ ไม่มีลูกน้องก็ไม่ต้องแบ่งใคร สามปีก่อน ตาตักแมงกะพรุนได้มาก ได้ 130,000 บาท เพราะว่าไม่ต้องแบ่งใคร”

ด้วยวัยอาวุโสบ่มเพาะประสบการณ์การทำประมงมายาวนานกว่า 50 ปี ตั้งแต่อายุ 18 ปีจนถึงปัจจุบัน ทำให้ตามีความเข้าใจทะเลอย่างลึกซึ้ง แต่กว่าจะถึงวันนี้ก็ผ่านบททดสอบมามากมายเช่นกัน

“ตอนอายุ 7 ปี ตาเคยตกจากเรือลงไปในเลที่เกาะลันตา ลอยคอกลางเล 4 ชั่วโมง จากหัวเช้า ตี 7 เขาไปพบตี 11 ตอนนั้นว่ายน้ำเป็นแล้ว หลังจากนั้นเรือก็จมอีกสองหน ก่อนแต่งงานตาไปวางอวนกุ้งแล้วเครื่องเรือเสียตอนพายุมา เรือจมริมหาด อีกหนหนึ่งหลังแต่งงานตาไปตักแมงกะพรุนได้เต็มลำแล้วพายุมาเรือจมแถวช่องแหลมหิน”

ตาซ่าย กำลังวางอวนปลาหลังเขียว

“ตาเคยทำงานเป็นลูกน้องเรืออวนลอย ทำได้ 2 เดือนก็เลิก ไม่ไหว ตัดสินใจว่าไม่ทำงานมีนายหัวอีก รำคาญเวลาเขาบ่นเขาด่า เราทำงานเหนื่อยแล้ว เขาว่าไอ้นี่ไม่ดีไอ้นั้นก็ไม่ดี เราสาวอวนอยู่ไม่หยุด นายหัวนั่งถือท้ายไม่ทำไหรสักอย่างกลับมาว่าเรา ฝนตกพายุมาเราก็ต้องสาวอวน เขายังว่าเราให้สาวอวนให้ไว พอกินไหรสักนิด เขาบ่นว่ากินไม่หยุด ค่าแรงก็น้อย ตอนนั้นเดือน 300 ลูกกินไม่พอ”

งานประมงที่ตาชอบมากสุดคืองานตักแมงกะพรุน ตาว่ามันเหมือนเงินลอยอยู่ในน้ำ ไปแล้วตักได้แน่นอน ช่วงปลายปีมีแมงกะพรุนแถวแหลมหินแหลมกรวด ตาก็ได้ตักแมงกะพรุนแถวบ้าน ช่วงต้นปีแมงกะพรุนผุดที่พังงาภูเก็ต ตาก็ไปตักแมงกะพรุนที่นั่นพร้อมกับเรือลำอื่น ๆ ในหมู่บ้าน หลังจากนั้นก็ไปที่คลองทราย จังหวัดกระบี่ ไม่กี่เดือนก็มีรายได้เป็นแสน

ส่วนในช่วงที่ไม่มีแมงกะพรุน จะวางอวนปู กับอวนปลาทราย ซึ่งทำได้ทุกเดือน นอกจากนั้น จะวางอวนปลากะพง อวนปลาหลังเขียว ช้อนกุ้งเคยตามฤดูกาล ตลอดจนรับซ่อมเครื่องยนต์ ตาเชี่ยวชาญตั้งแต่เครื่องตัดหญ้าไปจนถึงเครื่องรถเครื่องเรือ และรับงานรับจ้างอื่น ๆ เช่น เลื่อยไม้ให้อู่ต่อเรือ

ในวัยชราทำไมยังต้องทำงานหนักขนาดนี้? ฉันถาม

ตาซ่าย กำลังสอดส่องสายตาหากุ้งเคยในคลอง

“ตอนนี้ยังทำไหว ไม่เคยหยุด ไม่เคยไปเที่ยว ถ้าไม่ได้ทำงานมันหงุดหงิด อยู่ไม่ได้” ตาตอบ

“อยากมีเงินเก็บไว้ช่วยลูกหลานเวลาเขาลำบาก เก็บไว้กินเวลาเราทำไหรไม่รอด ตอนนี้ต้องทำ ยังทำรอด”

ทำงานเก่งขนาดนี้ สุขภาพแข็งแรงดีหรือเปล่า? ฉันถามต่อ

“ก็เป็นหลายโรคนะ ไทรอยด์เป็นพิษ ไส้เลื่อน ริดสีดวงทวาร ปวดเมื่อย ภูมิแพ้ผิวหนัง แต่รักษาตัวก็ทำงานได้” ตาตอบ และเล่าต่อว่า ช่วงนี้ไม่ทำงานที่มันหนัก ๆ แล้ว ตักแมงกะพรุนเสร็จแล้วจ้างเขาโยนขึ้นแพ ช่วงโยนขึ้นแพเป็นช่วงที่หนักมาก เที่ยวหนึ่งต้องโยนแมงกะพรุนหลายร้อยตัวบางทีพันตัว ตัวหนึ่งหนัก 2–10 กิโลกรัม มันทำให้ปวดเอว

แม้การทำประมงในวัยชราจะเหนื่อยยากลำบากกายกว่าคนในวัยอื่น แต่ตากับยายก็ภูมิใจที่ไม่ต้องพึ่งพาลูกและได้ช่วยเหลือลูกหลานอีกด้วย

แมงกะพรุนพันธุ์ลอดช่อง สามารถจับได้ตามฤดูกาล เป็นสินค้าส่งออก

หมายเหตุ

1. ตัดตอนจากหนังสือชาวประมงกระบี่ในวันที่ไม่มีถ่านหิน พิมพ์ครั้งแรก เดือนมีนาคม 2563

2. หัวเช้า หมายถึง ตอนเช้า เป็นภาษาถิ่นภาคใต้

3. ชุมชนบ้านคลองรั้ว-แหลมหิน ตั้งอยู่ริมทะเล อยู่ในเขตการปกครอง หมู่ที่ 1 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ มีประชากร 317 ครัวเรือน 1,117 คน

อ่าน เฒ่าทะเลตอนที่ 1

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ