9 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 นัดชาวบ้านกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส ที่คัดค้านโครงการขุดเจาะสำรวจแร่โปแตช ในพื้นที่ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร มาฟังคำพากษา หลังจากชาวบ้านยื่นอุทธรณ์ โดยศาลได้มีคำพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 9 ได้กระทำการละเมิดโจทก์จริง แต่เรื่องค่าเสียหายศาลพิจารณาแล้วให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 40,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับแต่วันฟ้อง
โดยคดีนี้เกิดจากการที่ชาวบ้านในพื้นที่ รวมตัวกันเพื่อคัดค้านโครงการขุดเจาะสำรวจแร่โปแตช ของบริษัทไชน่า หมิงต๋า โปแตช คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ปี 2559 และได้ตั้งคำถามต่อการขุดเจาะสำรวจแร่โปแตชในพื้นที่ ว่ามีการเข้ามาที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร และมีความกังวลอย่างมากต่อปัญหาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้ง ด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้รับอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแหล่งแร่โปแตชจำนวน 12 แปลงรวมเป็นพื้นที่มากถึง 116,875 ไร่
เหตุการณ์ที่นำมาสู่การฟ้องคดี คือในการขุดเจาะสำรวจหลุมที่ 4 วันที่ 9 – 14 พฤษภาคม 2561 ชาวบ้านได้มีการรวมตัวกันเพื่อขอให้หยุดกระบวนการขุดเจาะสำรวจเอาไว้ก่อน เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และร่วมกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่ากลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส ไม่เอาเหมืองแร่โปแตช และจะสู้ให้ถึงที่สุด จากเหตุการณ์ในวันดังกล่าว ทำให้บริษัทเอกชน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดสว่างแดนดิน เป็นคดีแพ่ง ต่อชาวบ้านกลุ่มรักษ์อำเภอวานิวาสจำนวน 9 คน เพื่อเรียกค่าเสียหายประมาณ 3,600,000 บาท โดยในชั้นต้น ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน ได้พิพากษา ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ให้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทเป็นเงินประมาณ 1,500,000 บาท ชาวบ้านกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสจึงตัดสินใจยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากการกระทำ ณ วันเกิดเหตุนั้น เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต เป็นการทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ และค่าเสียหายที่ทางบริษัทพิพาทเรียกมานั้นก็เกินไปจากความเป็นจริง
หลังฟังคำพิพากษา นายถนอมศักดิ์ ระวาดชัย ทนายจำเลย ได้ลงมาแจ้งผลของคำพิพากษาให้แก่ชาวบ้านกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส ที่มาร่วมให้กำลังใจจำเลยทั้ง 8 คนที่มาในวันนี้ อย่างอบอุ่น โดยทนายถนอมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า คำพิพากษาในครั้งนี้วางบรรทัดฐานเรื่องการทำละเมิดไว้ค่อนข้างดี โดยมีการนำเรื่องสิ่งแวดล้อมมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาด้วย จึงมีการพิจารณาว่าแม้จะเป็นการละเมิด แต่เป็นการละเมิดที่ไม่ร้ายแรง โดยมีการฟังเหตุผลของจำเลยในส่วนของปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในการทำเหมืองแร่ ซึ่งเป็นส่วนที่ทางโจทก์ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าหากมีผลกระทบเกิดจริง จะมีมาตรการอย่างไร
นายชัยทรัพย์ บัวพินธุ ตัวแทนกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส หนึ่งในจำเลยคดีนี้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกได้รับความยุติธรรม และดีใจที่ได้รับความยุติธรรมในวันนี้ ตอนฟังคำตัดสินในชั้นต้นกังวลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กลัว เพราะได้รับความร่วมมือจากพี่น้องในกลุ่มฯเป็นอย่างดี
นางสาวไสว อายุคง ตัวแทนกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส หนึ่งในจำเลยคดีนี้เช่นกัน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ชนะก็เหมือนชนะ เพราะเขาไม่ได้ฟ้องเราแค่นี้ฟ้องหลายล้าน แต่มันก็น้อยลง กลุ่มรักษ์อำเภอวานรฯ ยังสู้ สู้เพื่อทุกคนบ้านเรา คนวานร
นายชัยทรัพย์ บัวพินธุ ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เราจะเดินหน้าต่อ เราจะประชุมวางแผนเพื่อไม่ให้มีเหมืองโปแตชในพื้นที่บ้านเรา ยืนยันเต็มร้อย ยังไงก็จะสู้
นางสาวไสว ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ตอนนี้เรามีบทเรียนแล้ว เพราะฉะนั้นในการก้าวไปข้างหน้าของกลุ่ม ต้องเดินไปอย่างระมัดระวัง และที่สำคัญคือแต่ละก้าวของทุกคนที่จะเดินไปด้วยกัน ต้องหนักแน่น
ภาพ/ข่าว : กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส