เครือข่ายการเรียนรู้ภาคสังคม-น.ศ.ไทยต่างแดนเรียกร้องรัฐยุติคุกคามเสรีภาพสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง

เครือข่ายการเรียนรู้ภาคสังคม-น.ศ.ไทยต่างแดนเรียกร้องรัฐยุติคุกคามเสรีภาพสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง

แถลงการณ์ หยุดความรุนแรงต่อเด็ก เยาวชน และประชาชน


“เราคือประชาชน ที่มีสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน”

ในฐานะเครือข่ายการเรียนรู้ภาคสังคมของเด็ก เยาวชน และคนรุ่นใหม่ เรายึดมั่นในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่ทุกคนเกิดมาเท่าเทียม มีอิสระและเสมอภาคกัน ทุกคนมีสิทธิในการศึกษา เป็นเจ้าของการเรียนรู้ การเติบโตของตนเอง มีสิทธิในการมีชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงแห่งตน ที่จะได้รับการคุ้มครองทางกฏหมายอย่างเท่าเทียมกันโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ แน่นอนว่า จากสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นนั้น มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมอย่างหลากหลายและกว้างขวางโดยปราศจากอาวุธใดๆ แต่รัฐบาลกลับดำเนินการสลายการชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตา สารเคมี ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ชุมนุม ที่มีเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุรวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ เราขอประณามการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมชน และขอเรียกร้อง ดังนี้

1.หยุดใช้อำนาจสั่งการเจ้าหน้าที่ของรัฐ (ทหาร ตำรวจทุกกรม/กอง/หน่วย) ให้ใช้กำลัง/ อาวุธกับประชาชน เราขอเรียกร้องให้คืนทหาร ตำรวจ และกำลังพลทั้งหมดให้แก่ประชาชน ด้วยการส่งทหาร ตำรวจกลับกรม/กอง/หน่วย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของตนในการพิทักษ์/ปกป้อง/ดูแลประชาชน และหยุดใช้พรก.ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือในการละเมิด/คุกคามสิทธิและเสรีภาพของประชาชน 

2.คืนความเป็นธรรมและเสรีภาพให้แก่ผู้ชุมนุมทุกคน หยุดกระทำการโดยมิชอบด้วยการจับกุม คุมขัง หน่วงเหนี่ยว อุ้มหายผู้คนที่คิดต่าง รวมทั้งบุกรุกเคหะสถานโดยใช้กฎหมายในการสร้างชอบความธรรม คืนอำนาจ คืนสิทธิ คืนเสรีภาพในชีวิตให้แก่ประชาชน 

3.หยุดคุกคามสิทธิ เสรีภาพ และหยุดใช้ความรุนแรงต่อเด็ก เยาวชน คืนอนาคตและปัจจุบันให้แก่พวกเขา ให้เด็ก เยาวชนมีสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มีความฝัน มีความหวัง มีส่วนร่วม มีสิทธิและมีเสียงในการพัฒนาประเทศนี้ในฐานะประชาชนคนหนึ่งอย่างเท่าเทียม 

4.หยุดใช้อำนาจ แทรกแซงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน บริการสาธารณะทุกประเภท เช่น รถเมล์ รถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้า พื้นที่สาธารณะ สัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต ฯลฯ ไม่ควรมีประชาชนคนไหนได้รับผลกระทบในการเข้าถึง ใช้ประโยชน์สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และบริการสาธารณะใดๆ เหล่านี้ รวมทั้งหยุดใช้อำนาจแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งสื่อออนไลน์และสื่อกระแสหลัก ขณะเดียวกัน ขอเรียกร้องให้สื่อทุกแขนงตั้งตนอยู่ในวิชาชีพและยึดมั่นในจรรยาบรรณของความเป็นสื่อมวลชน

ประเทศไทยเวลานี้ เผชิญกับปัญหารอบด้าน ทั้งความเสื่อมทรุดของระบบ/ โครงสร้าง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม คอรัปชั่นทางนโยบาย อำนาจนิยมในระบบราชการและระบบการศึกษา เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนตัวเองและแสวงหาทางออกจากสถานการณ์ปัญหาโดยกระบวนการมีส่วนร่วม และเคารพในสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ยึดหลักและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน/ สังคมเป็นที่ตั้ง อย่าได้ปล่อยผ่าน ปัดทิ้ง หรือละเลยต่อเสียงของประชาชนผู้เห็นต่าง 

ท้ายที่สุดแล้ว ในฐานะความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน เราขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน เข้าถึงข้อมูล ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆ ด้วยการกลั่นกรอง คิด วิเคราะห์ ยอมรับและเคารพในความแตกต่าง หลากหลาย มีความเห็นอกเห็นใจในความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย 

“เราต่างก็มีความฝัน ฝันที่อยากเห็นสังคมนี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี สังคมที่ประชาชนทุกคนมีคุณค่า มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียม และได้รับการเคารพและปฏิบัติอย่างเป็นธรรม …ทุกขณะที่เราฝัน เราหวังนั้น เราลงมือทำ” 

20 ตุลาคม 2563

———————————————–
196 ภาคี เครือข่าย (บุคคล กลุ่มและองค์กร) สนับสนุนแถลงการณ์ ดูได้ที่เพจ Feel Trip https://web.facebook.com/FeelTripTH/posts/370167667677554

ด้านคณะและองค์กรนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยในต่างประเทศยืนยันเสรีภาพ เรียกร้องรัฐยุติการละเมิดเสรีภาพ

แถลงการณ์ของคณะและองค์กรนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยใน 18 ประเทศและดินแดนในนามกลุ่มแนวร่วมนักเรียนไทยในต่างประเทศผู้มีความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมืองกรณีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง

เรียน นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

คณะและองค์กรนักเรียนไทยและนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัยใน 18 ประเทศและดินแดน ในนามกลุ่มแนวร่วมนักเรียนไทยในต่างประเทศผู้มีความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง ด้วยจำนวนผู้ลงนามมากกว่า 868 รายชื่อ ขอประณามการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 โดยพวกเราคัดค้านการใช้อำนาจในการจับกุมคุมขังแกนนำการประท้วงและผู้สื่อข่าวโดยไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมที่เหมาะสม การปิดกั้นช่องทางสื่อ และการสั่งห้ามชุมนุม อนึ่ง การสลายการชุมนุมในวันที่ 16 ตุลาคม ด้วยปืนฉีดน้ำแรงดันสูง สารเคมีผสมสี และแก๊สน้ำตา เป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่กระทำการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ไม่ได้ก่อเหตุร้ายหรือก่อจลาจล จึงเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 รวมทั้งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยได้ให้สัตยาบันต่อกติการะหว่างประเทศทั้งสองฉบับนี้ไว้

พวกเรามีความกังวลต่อการที่รัฐบาลพยายามทำให้ผู้ชุมนุมเป็นเสมือนผู้ใช้ความรุนแรง การตีความว่าความเห็นต่างคือความรุนแรงในครั้งนี้ได้สื่อให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เพียงแต่กำลังกีดกั้นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมทางการเมือง แต่กำลังละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็น อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนอันละเมิดไม่ได้

พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครโดยทันที เนื่องจากไม่มีเหตุอันจำเป็นอีกต่อไป ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 และการชุมนุมของประชาชนมิได้ก่อความรุนแรงหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติแต่อย่างใด

พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพสิทธิในการชุมนุมโดยสันติวิธีของประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมในกรณีใดๆ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมด

นอกจากนี้พวกเราประสงค์ให้ตำรวจ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคารพสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงสิทธิในการมีทนายความและการเข้าเยี่ยมผู้ถูกควบคุมตัว

ท้ายที่สุดนี้ พวกเราขอให้รัฐบาลไทยให้เกียรติวิถีแห่งประชาธิปไตยและนิติธรรม ตลอดจนการใช้รัฐสภาอันเป็นช่องทางในการอภิปรายสาธารณะต่างๆ รวมถึงการอภิปรายอันเกี่ยวเนื่องกับการยื่นข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

การแสดงความเห็นต่างไม่ใช่การกบฏ การแสวงหาอิสรภาพและความเท่าเทียมมิใช่ความผิด และการแสดงออกทางความคิดต้องไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไปด้วยความเคารพ

To sign this document, please use the following link: https://forms.gle/vpuXd7DHuic4pifi9

Statement on the Declaration of a Severe State of Emergency in Bangkok and Related Human Rights Concerns By Thai Student Associations and Students at Colleges and University in Eighteen Countries and Territories, in the Name of The Coalition of Concerned Thai Students Abroad

October 19, 2020

Prime Minister Prayuth Chan-ocha,

We, the undersigned Thai student associations and students at colleges and universities in eighteen undersigned countries and territories, representing over 868 Thai students and counting, condemn, in the strongest terms, the declaration of a severe state of emergency in Bangkok on October 15, 2020. We decry the arrest and detention of protesters and journalists without due process, censorship of the media, and interdiction of public assemblies. The violent crackdown on peaceful protestors on October 16, involving high-pressure water cannons, painted chemical irritants, and tear gas, was a disproportionate response to an unarmed orderly assembly. The crackdown was, therefore, a clear violation of the Constitution of the Kingdom of Thailand B.E. 2560, as well as the Universal Declaration of Human Rights and the International Covenant on Civil and Political Rights, both of which are ratified by Thailand.

We are concerned by the government’s attempts to portray the pro-democracy demonstrations as violent. By misrepresenting dissent as violence, the Royal Thai Government stifles the inalienable right to form public assemblies and hold our government accountable.

We strongly urge the Royal Thai Government to immediately cease the use of the Emergency Decree on Public Administration in Emergency Situations B.E. 2548 and to revoke the declaration of a severe state of emergency in Bangkok. Both declarations are unwarranted and unjustified given Thailand’s success in containing the COVID-19 pandemic and a history of peaceful assembly that is neither violent nor constitutive of a threat to national security.

We urge the Royal Thai Government to respect the right of peaceful assembly guaranteed by the Thai Constitution and the International Covenant on Civil and Political Rights. Any actions against the protesters must comply with due process.

We strongly urge the Royal Thai Police and competent judicial authorities to respect detainees’ rights to said due process, including their right to an attorney and detainee visits.Lastly,

we urge the Royal Thai Government to respect democratic and parliamentary processes as spaces for public discussion, including those on the proposed reforms to the monarchy.

Freedom shall no longer be hunted, reason shall no longer be considered rebellion, and the slavery of fear shall no longer make us afraid to think.

Sincerely,

19 ตุลาคม 2563

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ