โรงเรียนขนาดเล็ก: “ยุบ” ย่อมง่ายกว่า “พัฒนา” (2)

โรงเรียนขนาดเล็ก: “ยุบ” ย่อมง่ายกว่า “พัฒนา” (2)

ภาพและเรื่องโดย พระมหาบุญช่วย สิรินธโร

“ผมไม่อยากให้โรงเรียนถูกยุบ เพราะผมรักโรงเรียนบ้านทุ่งโป่ง”

เด็กชายธนดล มาลาศรี ตัวแทนนักเรียนชายกล่าวด้วยความเสียดาย

ขณะที่เด็กหญิงธนัชชา ยอดมานะกล่าวว่า “หนูรักโรงเรียน โรงเรียนอยู่ใกล้บ้าน ไม่อยากไปเรียนไกล ๆ จึงไม่อยากให้ยุบโรงเรียนของหนู”  นั่นคือเสียงจากนักเรียนที่รู้สึกรักและผูกพันธ์โรงเรียนที่ตนเองเรียนมาหลายปี เมื่อรับรู้ว่า โรงเรียนจะต้องยุบตามนโยบายรัฐ ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก

กรณีโรงเรียนบ้านทุ่งโป่งพระสงฆ์มีบทบาทสำคัญยิ่งในการเสนอให้มีการทบทวนนโยบายการ “ยุบ-รวม” โดยการนำของพระครูโสภณพัฒนวิกรม รองเจ้าคณะอำเภอเมืองปาน รับเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก อำเภอเมืองปาน มีพระมหาสมชาติ ชาตปญฺโญ เป็นเลขานุการ โดยมีทุนก้อนแรกในการดำเนินการจากเงินบริจาคในงานอุปสมบท ราว 100,000 บาท เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นเป็นค่าใช้จ่ายครูอัตราจ้าง ซึ่งก็คงสามารถช่วยได้เป็นเบื้องต้นเท่านั้น

โรงเรียนบ้านทุ่งโป่งจะสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ จึงเป็นเรื่องท้าทายยิ่งท้าทายบรรดาผู้ซึ่งมีความเชื่อในแนวทางการพัฒนามากกว่าแนวทางการยุบ-รวม

กิจกรรม “ก้าวแรกธรรมยาตราและเสวนาเพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก” ซึ่งร่วมจัดโดย เครือข่ายพระนักพัฒนาชมชนภาคเหนือ (คพชน.) สถาบันธรรมาภิวัฒน์ มูลนิธิโพธิยาลัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตนอกที่ตั้งจังหวัดลำปาง นับเป็นกิจกรรมเริ่มต้นที่มีพลังไม่น้อย เช่น สานสัมพันธ์ภาคีเครือข่าย ทำให้ผู้เข้าร่วมเวทีได้สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน กลายเป็นเครือข่ายทั้ง โรงเรียน กลุ่มองค์กร ชมรม ผู้นำ ผู้ปกครอง นักเรียน พระสงฆ์ สถาบันอุดมศึกษา สถาบันศาสนา และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ยังเป็นการทบทวนทุนในชุมชนทั้งที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม สถานที่ที่มีความพร้อมทั้งอาคารสถานที่ สนามเด็กเล่น สนามฟุตบอล ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมของชุมชนได้ บุคลากร ทั้งผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง พระสงฆ์ ที่พร้อมรวมพลังในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน จะมีปัญหาก็เฉพาะครูที่เหลือเพียงหนึ่งอัตราเท่านั้นภูมิปัญญาการทำเกษตรกรรม ทอผ้า ย้อมสีธรรมชาติ จักสาน ที่ควรได้รับการสืบทอด ประเพณีวัฒนธรรม ที่เกี่ยวพันกับวัดวาพระศาสนา

จุดประกายเป้าหมายการพัฒนาการศึกษาโดยพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาคุณภาพของเด็กและเยาวชนในชุมชนเป็นสำคัญ จากการมุ่งที่ความรู้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความรู้จากภายนอกชุมชน มาสู่ที่เกี่ยวกับชีวิตและชุมชนโดยมี ชุมชนทำหน้าที Co-learning Space ด้วยการพัฒนาหลักสูตรสมรรถนะที่เรียกได้ว่าการเรียนรู้เรื่องของชุมชนโดยคนในชุมชน ครู คณะกรรมการสถานศึกษา เป็นคณะบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการที่จะช่วยให้โรงเรียนยังคงดำรงอยู่ หรือ ถูกยุบ-รวม หากคณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้เข้ามาเพียงเพื่อให้ครบองค์ประกอบ กรณี “โรงเรียนบ้านสามขา” อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ที่มีร้อยตรีชัย วงศ์ตระกูล เป็นประธานคณะกรรมการสถานศึกษา น่าจะเป็นตัวอย่างที่น่าเรียนรู้ยิ่ง เพราะสามารถทำโรงเรียนที่มีนักเรียนเหลือเพียงยี่สิบกว่าคน จนบัดนี้มีนักเรียนเพิ่มขึ้นกว่าเก้าสิบคน

ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ปัจจุบันถูกจำกัดลงภายใต้นโยบายยุบ-รวม โดยหากมีผู้บริหารหรือครูเกษียณอายุราชการไป ก็จะไม่อนุมัติอัตรากลับคืนมา จำเป็นต้องจ้างครูอัตราจ้างโดยชุมชนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอาเอง ชุมชนจำต้องดิ้นรนขวนขวายระดมทุนกันตามยถากรรม นอกจากนี้แล้ว ยังมีแนวทางที่น่าสนใจที่ทำได้ผลมาแล้วที่โรงเรียนบ้านสามขาอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง คือ การพัฒนาครูบุญธรรมขึ้นในชุมชน ให้เด็กนักเรียนไปเรียนรู้สาระเฉพาะด้านจากผู้รู้ในชุมชน ในฐานะใหม่ คือครูบุญธรรมที่นอกจากจะสอนหนังสือเด็กแล้ว ยังต้องเลี้ยงอาหารมื้อเย็นแก่เด็ก รวมถึงไปส่งเด็กกลับบ้านด้วย เป็นดั่งพ่อ-แม่บุญธรรม นั่นเอง

การยุบ-รวมห้องเรียนก็เป็นอีกแนวทางที่สำคัญ ในภาวะที่โรงเรียนขาดแคลนครู โดยอาจให้นักเรียนช่วงชั้นเดียวกันเรียนห้องเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เหลือห้องเรียนเพียง 3 ห้องเป็นอย่างมาก คือ ห้องอนุบาล ห้องช่วงชั้นที่หนึ่ง และห้องช่วงชั้นที่สอง ซึ่งคุณครูประจำการจะต้องทำงานหนักมากขึ้นอีกนิด แต่หากชุมชนมีระบบครูบุญธรรมเข้ามาเสริมอีกชั้นหนึ่ง ก็จะสามารถนำพาโรงเรียนข้ามพ้นวิกฤตไปได้

กองทุนพัฒนาโรงเรียนที่เป็นเงินออม ไม่นำมาใช้จ่าย แต่ปล่อยให้สมาชิกในชุมชนกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูก แล้วนำรายได้ดอกเบี้ยมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างครูอัตราจ้าง และใช้จ่ายยามจำเป็น หากกองทุนมีเงินเพิ่มขึ้นก็จะสามารถหารายได้ได้มากยิ่งขึ้น

กิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ มีกิจกรรมการเรียนรู้ในชุมชนที่นักเรียนสามารถเรียนรู้เพื่อการดำรงชีวิตในอนาคต และในขณะเรียนรู้ไปก็สามารถสร้างรายได้และลดรายจ่ายในครอบครัวไปพร้อมกันด้วย เช่น การเลี้ยงไก่ การทำเกษตร การทำปุ๋ยอินทรีย์จากใบไม้ การทำถ่านชาโคล เป็นต้น

การขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงาน องค์กร ภาคีต่าง ๆ ทั้งภาคการศึกษา ภาคราชการส่วนกลางและท้องถิ่น ภาคการศาสนา ภาคประชาสัมคม เช่น วัสดุอุปกรณ์ พาหนะ และอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นต้องวิเคราะห์ให้เห็นความขาดแคลนที่ชัดเจน

ก้าวแรกผ่านพ้นไป ด้วยความร่วมมือของหลายฝ่าย จากนี้ พระมหาสุชาติ ชาตปญฺโญ และคณะ จะสืบสานด้วยก้าวที่สอง ก้าวที่สาม ก้าวที่สี่ ก้าวที่ห้า … ด้วยกิจกรรมการเดิน “ธรรมยาตราเพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก” จากโรงเรียนบ้านทุ่งโป่ง อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ผ่านเส้นทางลงใต้สู่สวนโมกขพลาราม จังหวัดสุราษฏร์ธานี สถานที่ซึ่งเคยเป็นแหล่งบ่มเพาะชีวิตวิถีธรรมและเรียนรู้แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อ “ต่อหางสุนัข” ของหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ รวมถึงเรียนรู้การปรับตัวของโรงเรียนขนาดเล็กตลอดเส้นทาง แล้วนำกลับมาเป็นต้นทุนในการพัฒนาการศึกษาโรงเรียนบ้านทุ่งโป่ง ตอไป

author

ปฏิทินกิจกรรม EVENT CALENDAR

เข้าสู่ระบบ