คอลัมน์: รับเชิญ เรื่อง: สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์
After Shake นั้นเกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะการเขย่า (Shake) นั้น เกิดขึ้นตลอดเวลา
หากความจริงและหลักการในบ้านเมืองมีสภาพเหมือนกำลังถูกฝุ่นเกาะอยู่หนาทึบ คนทำงานสื่อที่มองเห็นฝุ่นหนานี้คงพยายามหาวิธี ‘เขย่าฝุ่น’ ให้คนเห็นความจริง และหลักการที่ควรยึดถือร่วมกันให้ชัดเจนขึ้น มิปล่อยให้ฝุ่นแห่งอคติ ความเกลียดชัง การใช้อารมณ์โดยไร้เหตุผล มาบดบังคุณค่าที่เราควรยึดถือร่วมกัน เช่น ความยุติธรรมที่ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาค เสรีภาพในการแสดงออก การไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือการเคารพในความเป็นมนุษย์ของเพื่อนร่วมสังคม
ความขัดแย้งยาวนานทำให้ฝุ่นแห่งอคติและความเกลียดชังพอกหนาขึ้นเรื่อยๆ สื่อที่พยายามชักชวนให้สังคมมีสติผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันมา ‘เขย่า’ ให้ฝุ่นมายาค่อยๆ หลุดหายไป
แน่นอนว่า ในกระบวนการย่อมมีผู้ล้มหายตายจาก ปรับเปลี่ยน ถอยตั้งรับ หยุดเพื่อปรับกระบวนยุทธ์ แต่กระนั้น ก็มิได้หมายความว่าสังคมจะหยุดนิ่งและไม่ถูกเขย่าอีกเลย
เมื่อมีคนหนึ่งเขย่า แรงจาก After Shake จะกระเพื่อมไปสู่คนอื่นๆ เสมอ
การเขย่าของแต่ละคนจึงสำคัญ เพราะมันส่งแรงกระเพื่อมให้คนหน้าใหม่ลุกขึ้นมาเขย่าต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ
เมื่อเกิด After Shake ขึ้นแล้ว แรงพลังนั้นย่อมไม่หายไป แต่ได้ถูกส่งต่อไปยัง ‘ผู้เขย่า’ รายถัดไป
ในภาวะเช่นนี้ ผู้ทำหน้าที่สื่ออาจต้องสลับตำแหน่ง แตะมือ หมุนเวียนเปลี่ยนกัน ตามจังหวะชีวิต แรงกำลัง พลังใจ และเงื่อนไขทางทุนรอน ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
เคารพนับถือทุกคนที่ยังคง ‘เขย่า’ ร่างให้สังคมกลับมามีสติ คิดด้วยเหตุผล
สำหรับบางคนที่ถึงวาระ ถอยไปพัก หยุดทบทวน ก็ควรได้รับคำขอบคุณและกำลังใจ
เชื่อเถอะว่า ไม่มากก็น้อย การเขย่าของคุณได้สร้าง After Shake ขึ้นมาแล้ว
สิ้นสุดการสนทนา