ทหาร-ตำรวจอ้างผ้าป่าสามัคคีเป็นภัยต่อความมั่นคง สั่งห้าม ‘กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์’ จัดงานบุญเสาร์-อาทิตย์นี้ หากขัดขืนจะจับกุมชาวบ้านทุกคนที่ออกมาร่วมงานมาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ชุมนุม
25 มี.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (24 มี.ค. 2559) ในการประชุมของนายอำเภอบำเหน็จณรงค์ ทหารและตำรวจ ได้มีการสั่งห้ามชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ จัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อระดมทุนในการต่อสู้คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบำเหน็จณรงค์ โดยว่าอ้างการจัดผ้าป่าสามัคคีของชาวบ้าน ผิดกฎหมาย เป็นภัยต่อความมั่นคง และสร้างความแตกแยกในชุมชน และหากขัดขืนจะจับกุมชาวบ้านทุกคนที่ออกมาร่วมงานมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558
สืบเนื่องจาก กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ ซึ่งต่อสู้คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในโครงการเหมืองแร่โปแตชและเกลือหิน ของบริษัทอาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) ได้รับการติดต่อจากปลัดอำเภอบำเหน็จณรงค์ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2559 ให้เข้าพบนายอำเภอบำเหน็จณรงค์ ในวันที่ 24 มี.ค. 2559 เพื่อสอบถามเรื่องการจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี ซึ่งชาวบ้านวางแผนจะจัดในวันที่ เสาร์-อาทิตย์ที่ 26-27 มีนาคม นี้ ที่วัดเพชรภูมิสุวรรณ ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ
ในเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค. 2559 ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ประมาณ 30 คน เดินทางไปตามนัดที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอบำเหน็จณรงค์ โดยมีนายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ พ.ต.ท. พินิจ เถลิงศักดา รอง ผกก. (ป.) สภ.บำเหน็จณรงค์ และพันโทสุรชัย ชอบชื่น รองหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ (ฝ่ายทหาร) มาพบชาวบ้าน
พันโทสุรชัยซึ่งได้รับมอบหมายจากรองผู้บังคับการจังหวัดเป็นผู้เริ่มเปิดวงคุยกับชาวบ้านโดยอ้างว่า “ได้คุยกับรองผู้บังคับการจังหวัด รองผู้บังคับการจังหวัดบอกว่าเป็นความผิด”
จากนั้นชาวบ้านถามว่า “ผิดมาตราที่” พันโทสุรชัยตอบว่า “ไม่ต้องถามว่ามาตราอะไรเพราะผมไม่ใช่ทนาย แต่เขาสั่งมาว่าเป็นความผิด” ชาวบ้านถามต่อว่า “ประชาชนมีสิทธิรู้”
“รองผู้บังคับการจังหวัดบอกว่าเป็นความผิดเพราะใช้คำว่าระดมทุนต่อสู้ แค่นี้ก็เข้าความมั่นคงแล้ว คำว่าต่อสู้ หมายความว่าเป็นการสร้างความแตกแยก เข้าในข้อของความมั่นคงเป็นการระดม รวบรวม สมทบ ใน พ.ร.บ.ชุมนุมนี้ เรียบร้อย” พันโทสุรชัยยืนยันว่าผ้าป่าสามัคคีครั้งนี้มีความผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าระหว่างการพูดคุย ทหารแจ้งว่า คำว่า “การระดมทุน ต่อสู้ คัดค้าน” เข้าข่ายผิดกฎหมายความมั่นคง สร้างความแตกแยกในชุมชน อีกทั้งยังเป็นการทำให้รัฐเสียหายก็ถือว่าผิด แต่ถ้าทำแล้วไม่ทำให้รัฐเสียหายถือว่าไม่มีความผิด ชาวบ้านจึงได้โต้แย้ง ชี้แจง และมีการตั้งคำถามกลับ-ไปมา
ชาวบ้านได้เจรจาเพื่อแก้ไขข้อความที่ปรากฏในใบฎีกาผ้าป่าสามัคคีที่ถูกระบุว่าผิดกฎหมายความมั่นคง แต่ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากใบฏีกาผ้าป่านี้ทราบเรื่องไปถึงผู้ใหญ่และกองทัพเรียบร้อยแล้ว และได้มีการสั่งห้ามชาวบ้านจัดผ้าป่าสามัคคีในวันดังกล่าว และหากขัดขืนจะจับกุมชาวบ้านที่ออกมาร่วมงานไปมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2559
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเต็มว่า ในตอนท้ายทหารและตำรวจได้พูดคุยกับเจ้าอาวาสวัดเพชรภูมิสุวรรณในห้องนายอำเภอเป็นการเฉพาะ และต่อมาเจ้าอาวาสขอให้กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ เลื่อนการจัดงานผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ออกไปก่อนเพื่อไม่ให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ในวันนี้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้กับชาวบ้าน เนื่องจากเห็นว่าแม้กระทั่งการจัดผ้าป่าสามัคคีก็มีความผิด และไม่สามารถแสดงออกในสิทธิและเสรีภาพ เพื่อการปกป้องชุมชนจากมลพิษที่มาพร้อมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ ยังคงยืนยันที่จะจัดกิจกรรมวงโสเหล่ (วงพูดคุย) เพื่อแสดงออกซึ่งสิทธิและเสรีภาพในการปกป้องชุมชนจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบำเหน็จณรงค์ต่อไป ในวันที่ 26 มี.ค. 2559