5 ส.ค. 2558 เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนอีสาน 13 องค์กร ออกแถลงการณ์เพื่อแสดงท่าทีต่อกรณีนายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน และกรรมการองค์การ Armnestry International ประเทศไทย ถูกเรียกให้เข้าไปรายงานตัวในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ” ในช่วงเช้าวันนี้ (คลิกอ่านข่าวความคืบหน้าการรายงานตัว)
แถลงการณ์ระบุว่า ตลอดระยะเวลาของการยึดอำนาจของทหารที่นำโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) พื้นที่ในการแสดงความเห็น การแสดงออกทางการเมืองตามวิถีทางของประชาธิปไตย ได้ถูกลิดรอนและปิดกั้นการแสดงออกอย่างมาก ปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ถูกจำกัดขอบเขตและพื้นที่ในการแสดงออกซึ่งปัญหาที่ได้รับ บางกรณีถึงขั้นถูกข่มขู่ คุกคาม ขับไล่ โดยอ้างนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลทหาร
องค์กรเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนอีสานที่ลงชื่อแนบท้ายในแถลงการณ์นี้ จึงมีข้อเรียกร้องต่อสถานการณ์ปัญหาดังกล่าว คือ 1.ให้รัฐบาลทหารยุติการจับกุมดำเนินคดีต่อนายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจนในข้อกล่าวหาตามกฎหมายอาญา มาตรา 116 นี้ โดยไม่มีเงื่อนไข
2.ให้รัฐบาลจงเร่งคืนพื้นที่เสรีภาพ การแสดงออกทางการเมือง การเคลื่อนไหวนำเสนอปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนา และเสรีภาพในการใช้ชีวิตตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งยุติการใช้กำลังและกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมต่อคนจนที่ปกป้องสิทธิชุมชน และ 3.ดำเนินการให้มีการเลือกตั้ง คืนอำนาจอธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยเร็วที่สุด
“คืนพื้นที่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” จากคดีข้อกล่าวหาที่มีต่อ นายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคน ในการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 “ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ” ซึ่งจะต้องเข้าไปรายงานตัวตามหมายเรียกของสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ในวันที่ 5 สิงหาคม 2558 นั้น ตลอดระยะเวลาของการยึดอำนาจของทหารที่นำโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา พื้นที่ในการแสดงความเห็น พื้นที่ในการแสดงออกทางการเมือง ตามวิถีทางของประชาธิปไตย ได้ถูกลิดรอนและปิดกั้นการแสดงออกอย่างมาก ปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ถูกจำกัดขอบเขตและพื้นที่ในการแสดงออกซึ่งปัญหาที่ได้รับ บางกรณีถึงขั้นถูกข่มขู่ คุกคาม ขับไล่ โดยอ้างนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลทหาร ทั้งที่โดยความเป็นจริงแล้ว ประเทศที่จะมีการพัฒนาอย่างรุดหน้า คือประเทศเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทั้งการแสดงความคิดเห็น การร้องเรียนนำเสนอปัญหา แต่ภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาล คสช. กลับดำเนินการในสิ่งตรงกันข้ามทั้งสิ้น พวกเราในนามกลุ่ม/เครือข่าย และองค์กร ที่ลงชื่อแนบท้ายในแถลงการณ์นี้ จึงมีข้อเรียกร้องต่อสถานการณ์ปัญหาดังกล่าว ต่อไปนี้ 1. ให้รัฐบาลทหารยุติการจับกุมดำเนินคดีต่อนายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจนในข้อกล่าวหาตามกฎหมายอาญา มาตรา116 นี้ โดยไม่มีเงื่อนไข 2. ให้รัฐบาลจงเร่งคืนพื้นที่เสรีภาพ การแสดงออกทางการเมือง การเคลื่อนไหวนำเสนอปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนา และเสรีภาพในการใช้ชีวิตตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งยุติการใช้กำลังและกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมต่อคนจนที่ปกป้องสิทธิชุมชน และอนุรักษ์ทรัพยากรชุมชนด้วยแนวทางสันติวิธีโดยทันที 3. ดำเนินการให้มีการเลือกตั้ง คืนอำนาจอธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยเร็วที่สุด ด้วยความเคารพ 5 สิงหาคม 2558 |
ที่มาภาพ: สมัชชาคนจน