ภาพจาก www.agilenttour.com
อำเภอเชียงของ อำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงราย เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม เช่น วัดศรีดอนชัย ที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงของ วัดพระแก้ว วัดหลวงไชยสถาน วัดสบสมและวัดหาดไคร้ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต เช่น วัฒนธรรมหมู่บ้านไทลื้อ การผลิตผ้าฝ้ายลายน้ำไหล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงของอำเภอ นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเชื่อมโยงด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวกับประเทศต่างๆ เช่น สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 (ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเวียงเชียงของ,2556) โดยการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง-ตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (ห้วยทราย-เชียงของ) หรือโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้มีการเปิดใช้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 ที่ผ่านมา สะพานแห่งนี้ข้ามไปสู่แขวงบ่อแก้วของประเทศลาวที่เชื่อมเข้าเส้นทางหมายเลข 3A (R3A) ถนนที่เชื่อมระหว่างจีน-ลาว-ไทย ถนนเส้นนี้มีต้นทางเริ่มจากเชียงของ ประเทศไทย-บ่อแก้ว-หลวงน้ำทา-บ่อเต็น ประเทศลาว เชื่อมไปยังบ่อหาน-เชียงรุ่งหรือจิ่งหง ในแคว้นสิบสองปันนา สิ้นสุดที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ในประเทศจีน โดยมีระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงคุนหมิง 1,800 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้อำเภอเชียงของ ในฐานะที่เป็นเมืองหน้าด่านหลักที่จะรองรับการเดินทางท่องเที่ยว การค้าขายที่การขนส่งสินค้าด้วยระบบถนนผ่านจุดเชื่อมคือสะพานดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอำเภอเชียงของได้มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับการการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว เช่น การสร้างจุดชมวิวห้วยทรายมาน และ “แลนด์มาร์คปลาบึก” ขนาดใหญ่สุดในโลก บนพื้นที่ 40 ไร่ติดริมน้ำโขงไทย-ลาว ฝั่งอำเภอเชียงของ คาดใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท และทุ่งดอกไม้ 3 ฤดูบนเนินเขาเลียบน้ำโขง เพื่อรองรับแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (www.bangkokbiznews.com)
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร (แม่โจ้โพลล์) จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในอำเภอเชียงของ ในหัวข้อ “เชียงของ…ความพร้อมต่อการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายแดนแห่งใหม่” เพื่อให้ทราบถึงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของอำเภอเชียงของ หลังจากเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย- ลาว แห่งที่ 4 จำนวน 449 ราย ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 27 มีนาคม 57 สรุปผลได้ดังนี้
เมื่อสอบถามถึงการเปิดใช้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 ต่อปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวอำเภอเชียงของนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.50 เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดจากการพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางคมนาคมต่างๆ เช่น ถนน และสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศลาวและจีนตอนใต้ เดินทางมาเที่ยวได้สะดวกมากขึ้น รองลงมา ร้อยละ 12.92 เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเท่าเดิม และร้อยละ 9.58 เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง เนื่องจากจุดผ่านแดนแห่งใหม่อยู่ห่างจากแห่งเดิมมากกว่า 10 กิโลเมตร
จากนั้นได้สอบถามถึงด้านความพร้อมของอำเภอเชียงของต่อการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายแดนในอนาคต พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 90.20 คิดว่ามีความพร้อม โดยคิดว่ามีความพร้อมใน ด้านแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรมและประเพณี อันดับ 2 ในด้านโรงแรมและที่พักในอำเภอเชียงของ และอันดับ 3 ในด้านการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว และมีเพียง ร้อยละ 9.80 ที่ คิดว่าอำเภอเชียงของยังไม่มีความพร้อมต่อการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายแดน และเมื่อสอบถามถึงประโยชน์ของการพัฒนาอำเภอเชียงของเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายแดน ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.96 คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากการค้าการลงทุน ส่งผลทำให้เกิดการค้าขายสินค้าและบริการต่างๆ ได้มากขึ้น ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น รองลงมา ร้อยละ 10.69 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 5.35 เห็นว่าจะไม่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากเห็นว่าผู้ลงทุนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนจากนอกพื้นที่
สำหรับข้อเสนอแนะของประชาชนในอำเภอเชียงของต่อการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายแดน นั้น อันดับ 1 แนะว่าควรสร้างและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวให้ดึงดูดความสนใจและมีความสะอาด สวยงาม เช่น การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ (ร้อยละ 32.34 ) อันดับ 2 แนะว่าควรปรับปรุงและพัฒนาด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ให้อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เช่น ถนนหนทาง ที่พัก ร้านขายของ (ร้อยละ 22.16) และอันดับ 3 แนะควรการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เช่น แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โบราณสถาน โบราญวัตถุ และมีจุดบริการด้านการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว (ร้อยละ 20.96)
แม้จากผลสำรวจจะพบว่าแนวโน้มด้านการท่องเที่ยวของอำเภอเชียงของจะเป็นไปในทิศทางที่ดี มีนักท่องเที่ยวจีนนิยมที่เดินทางผ่านเส้นทางสะพานมิตรภาพนี้มากขึ้น โดยนิยมไปเที่ยวทั้งใน จังหวัดเชียงราย และเดินทางต่อไปยัง จังหวัดเชียงใหม่ และสถานที่ท่องเที่ยวในภาคอื่นๆ ของประเทศไทย โดยมีทั้งการนำรถเดินทางมาเอง และใช้บริการบริษัททัวร์ แต่จากการลงพื้นที่ของทีมงานศูนย์วิจัยฯ ก็พบว่ามีปัญหามากมายที่ท้าทายการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของอำเภอเชียงของอยู่ เช่น ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากส่วนกลางและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น การประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวหรือการสร้างจุดดึงดูดด้านการท่องเที่ยว ปัญหาการย้ายจุดบริการประทับตราหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตและวีซ่า จากท่าเรือเก่าไปยังด่านพรมแดนเชียงของ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงของประมาณมากกว่า 10 กิโลเมตร จึงทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้วิธีข้ามไปยังประเทศลาวทันที โดยทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่อำเภอเชียงของลดลง ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ประกอบอาชีพขับรถรับจ้าง เรือรับส่งผู้โดยสาร มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการน้อยลงและร้านขายสินค้าในตัวอำเภอเชียงของเงียบเหงา ซึ่งได้รับผลกระทบตั้งแต่ปลายปีที่มีการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ซึ่งก็เป็นโจทย์ใหญ่ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการที่จะร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวให้สามารถดึงนักท่องเที่ยวกลับมา หลังจากสะพานใหม่เปิดใช้
รายละเอียดแบบสอบถาม
1.การเปิดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวอำเภอเชียงของเป็นอย่างไร
1.เพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดจากการพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางคมนาคมต่างๆ เช่น ถนน และสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 จำทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศลาวและจีนตอนใต้ เดินทางมาท่องเที่ยวได้สะดวกมากขึ้น |
ร้อยละ 77.50 |
2.เท่าเดิม |
ร้อยละ 12.92 |
3.ลดลง เนื่องจากจุดผ่านแดนแห่งใหม่อยู่ห่างจากแห่งเดิมมากกว่า 10 กิโลเมตร
|
ร้อยละ 9.58 |
2.ท่านคิดว่าอำเภอเชียงของ มีความพร้อมต่อการขยายของแหล่งท่องเที่ยวชายแดนในอนาคตหรือไม่
1.พร้อม ในด้าน อันดับ 1 คือ ด้านแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรมและประเพณี อันดับ 2 คือ ด้านโรงแรมและที่พักในอำเภอเชียงของ อันดับ 3 คือ การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว |
ร้อยละ 90.20 |
2.ไม่พร้อม |
ร้อยละ 9.80 |
3.ท่านคิดว่าชาวเชียงของจะได้รับประโยชน์ของการพัฒนาอำเภอเชียงของเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายแดนแห่งใหม่หรือไม่
1.ได้รับประโยชน์ เนื่องจากการค้าการลงทุน ส่งผลทำให้เกิดการค้าขายสินค้าและบริการต่างๆ ได้มากขึ้น ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น |
ร้อยละ 83.76 |
2.ไม่ได้รับประโยชน์ |
ร้อยละ 5.28 |
3.ไม่แน่ใจ |
ร้อยละ 10.96 |
4.ข้อเสนอแนะของประชาชนในอำเภอเชียงของต่อการเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายแดน
อันดับ 1 แนะว่าควรสร้างและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวให้ดึงดูดความสนใจและมีความสะอาด สวยงาม เช่น การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ |
ร้อยละ 32.34 |
อันดับ 2 แนะว่าควรปรับปรุงและพัฒนาด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ให้อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เช่น ถนนหนทาง ที่พัก ร้านขายของ |
ร้อยละ 22.16 |
อันดับ 3 แนะควรการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เช่น แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม โบราณสถาน โบราญวัตถุ และมีจุดบริการด้านการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว |
ร้อยละ 20.90 |
อันดับ 4 ควรเร่งพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น ด้านภาษา ผู้ประกอบการ การให้บริการต่างๆ |
ร้อยละ 8.40 |
อันดับ 5 ภาครัฐควรสนับการลงทุนด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ |
ร้อยละ 6.00 |
อันดับ 6 บริหารจัดการการผ่านแดนของนักท่องเที่ยว เช่น ลดค่าธรรมเนียมในการผ่านด่าน มีรถบริการรับส่งหน้าด่านไปยังสะพาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว |
ร้อยละ 5.40 |
อันดับ 7 หน่วยงานภาครัฐควรเข้ามาควบคุมและตรวจสอบในการเข้ามาใช้ทรัพยากร เพื่อไม่ให้นายทุนเอาเปรียบคนในพื้นที่ |
ร้อยละ 4.80 |
ข้อมูลทั่วไปผู้ตอบแบบสอบถาม
1.เพศ
ชาย ร้อยละ 41.44 หญิง ร้อยละ 58.56
2.อายุ
ผู้ตอบแบบสอบถามมีอายุเฉลี่ย 33 ปี สูงสุด 79 ปี และต่ำสุด 15 ปี
3.ระดับการศึกษา
ประถมศึกษา ร้อยละ 17.19 มัยธมศึกษา ร้อยละ 48.89 ปวช./ปวส. ร้อยละ 10.19
ปริญญาตรี ร้อยละ 17.84 สูงกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 4.98
ไม่ได้เรียน ร้อยละ 0.91
4. อาชีพ
รับราชการ พนักงาน ลูกจ้างรัฐ/รัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 10.36 พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 7.43
ธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ร้อยละ 29.51 เกษตรกร ร้อยละ 18.024
นักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 34.46