คนลุ่มน้ำโขงกว่า 4,500 ร่วมลงนามค้าน ‘เขื่อนแม่น้ำโขง’ เตรียมจัดเวทีสาธารณะระดับภูมิภาค 11 พ.ย.นี้ รอ 3 รัฐบาลตอบรับเข้าร่วม
6 พ.ย. 2558 จากกรณีที่เครือข่ายประชาชนท้องถิ่นในประเทศกัมพูชา ไทย และเวียดนาม ร่วมกันออกแถลงการณ์หัวข้อ “รัฐบาลประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ต้องฟังเสียงประชาชน: แถลงการณ์ประชาชน ว่าด้วยโครงการเขื่อนในภูมิภาคแม่น้ำโขง เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2558 ที่ผ่านมา และมีการรณรงค์ร่วมลงนาม เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงให้รับฟังอย่างจริงจังในประเด็นผลกระทบอย่างใหญ่หลวงของเขื่อนขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงและสายน้ำต่างๆ ในลุ่มแม่น้ำโขง และความกังวลของชุมชนท้องถิ่นที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการเหล่านี้
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า “เราขอเรียกร้องให้มีการพูดคุยกันโดยตรง ระหว่างตัวแทนรัฐบาลในภูมิภาคแม่น้ำโขง กับตัวแทนของประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขง ในเวทีสาธารณะที่จะมีการจัดขึ้น ทั้งนี้ ตัวแทนรัฐบาลต่างๆ ต้องมาเข้าร่วมในเวทีสาธารณะ ทั้งนี้เพื่อฟังเสียงของพวกเรา และเรียนรู้จากปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเราจากโครงการเขื่อน”
ล่าสุดเครือข่ายประชาชนได้ส่งจดหมายเชิญไปยังรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ไทย และเวียดนามแล้ว สำหรับการจัดเวทีสาธารณะระดับภูมิภาค เรื่อง “เสียงประชาชนแม่น้ำโขง: สารถึงรัฐบาลแม่น้ำโขงเรื่องเขื่อนแม่น้ำโขง” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่มหาวิทยาลัยอันเกียง จ.อันเกียง สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในประเทศเวียดนาม
การประชุมสาธารณะระดับภูมิภาคดังกล่าวจะเป็นการประชุมของผู้เข้าร่วมจำนวนเกือบ 100 คน โดยอย่างน้อย 20 คนมาจากชุมชนท้องถิ่นในประเทศกัมพูชาและไทย นอกจากนั้นส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนในชุมชนแม่น้ำโขงของเวียดนาม กลุ่มประชาสังคม และกลุ่มนักวิชาการจากประเทศเวียดนาม นับเป็นเวทีสำคัญ เนื่องจากสามารถรวมเอาประชาชนกัมพูชา ไทยและเวียดนามเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรกเพื่อพูดคุยกันเรื่องเขื่อนแม่น้ำโขงอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีตัวแทนของรัฐบาลแม่น้ำโขงตอบกลับอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งกรมทรัพยากรน้ำ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย ซึ่งภาคประชาชนไทยส่งจดหมายเชิญไปถึงโดยตรงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าของแถลงการณ์ซึ่งเริ่มแรกลงนามโดยตัวแทนประชาชนจาก 3 ประเทศ 10 องค์กร และนักวิชาการ 1 คนในฐานะผู้สนับสนุนเสียงประชาชน หลังจากการรณรงค์เพื่อให้มีการลงนาม ปัจจุบันมีชาวบ้านริมแม่น้ำโขงและประชาชนทั่วไปกว่า 4,500 คนแล้วที่ร่วมลงนาม ในจำนวนดังกล่าวกว่า 4,000 รายชื่อและรอยนิ้วมือ มาจากกลุ่มประชาชนในท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงและได้พบเห็นการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำโขงโดยตรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รายนามทั้งหมดจะถูกรวบรวมสุดท้ายในช่วงต้นสัปดาห์หน้า และทำการนำเสนอไปยังรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลจากทั้ง 4 ของประเทศแม่น้ำโขงตอนล่าง คือ ลาว ไทย เวียดนาม และกัมพูชา ผู้ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงในกระบวนการการตัดสินใจในอนาคตของลุ่มแม่น้ำโขง
author
