หมู่บ้านแม่กานาไร่เดียว ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 14 ตำบลแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีประชากรประมาณ 120 ครัวเรือน
อยู่ทางทิศใต้ของตัวอำเภอเมืองพะเยา และมีถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางสำคัญใกล้เคียง นอกจากนี้ พื้นที่ตำบลยังติดกับอำเภองาว จังหวัดลำปาง ปัจจุบันในพื้นที่นี้ยังอยู่ใกล้กับที่ตั้งของมหาวิทยาลัยพะเยา ทำให้มีการขยายตัวของชุมชนและหมู่บ้านเพิ่มขึ้น
อาชีพหลักๆของคนในหมู่บ้านแม่กานาไร่เดียว คือการทำอาชีพเกษตรกร และรับจ้างทั่วไป โดยทำการปลูกข้าวโพด รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนจะอยู่ที่ 40,000 บาท แต่ถ้าหากว่างบางบ้านจะมีการนำไม้กวาดมาถักขายเพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว
ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
บ้านแม่กานาไร่เดียว เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำเป็นลักษณะ 2 ประเภท คือ พื้นที่แหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งน้ำที่สร้างขึ้น โดยแหล่งน้ำธรรมชาตินั้นมีลำห้วยจากน้ำธรรมชาติและการทำฝายภายในหมู่บ้าน โดยพื้นที่รอบหมู่บ้านเป็นภูเขาลักษณะคล้ายหลังเต่า
หมู่บ้านแม่กานาไร่เดียวมีทรัพยากรธรรมชาติ
• ทรัพยากรป่าไม้
• ทรัพยากรน้ำ
• ทรัพยากรดิน
ทรัพยากรป่าไม้
โดยในหมู่บ้านทั้งสองฝากถนนจะติดกับป่าไม้สงวนและป่าไม้คุ้มครองโดยชาวบ้านสามารถไปเก็บของป่าและไม้บางชนิดมาใช้งานภายในครัวเรือน
ทรัพยากรน้ำ
ภายในหมู่บ้านจะใช้น้ำจาก 2 แหล่งนั่นก็คือน้ำจากภูเขาและน้ำประปาเนื่องจากหมู่บ้านนี่เป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่รับ
น้ำจึงทำให้หมู่บ้านขาดแคลนน้ำเมื่อถึง ฤดูแล้งที่น้ำบนภูเขาก็แห้งและน้ำจากปะปาก็ไม่พอเพียงบางครั้งก็ไม่สามารถนำน้ำมาใช้ได้ บางบ้านจึงต้องซื้อถังน้ำมากักเก็บน้ำไว้ใช้ ในหน้าแล้ง
ทรัพยากรดิน
นื่องจากเป็นหมู่บ้านที่ติดภูเขาจึงมีดินที่ดี แต่เนื่องจากขาดแคลนน้ำจึงทำให้ไม่สามารถดึงศักยภาพของดินออกมาได้อย่างเต็มที่
พื้นที่ทางการเกษตร
ชาวบ้านมีไร่ในการปลูกพืชหมุนเวียนชาวบ้านยังปลูกพืชหมุนเวียนหลังการเก็บเกี่ยวข้าว เช่น ข้าวโพด
สวนผลไม้และพืชผักสวนครัว
– สวนผลไม้ หมู่บ้านแม่กาไร่นาเดียวมีสวนผลไม้ขนาดเล็กที่เป็นผลไม้ท้องถิ่นหลากหลายเช่น มะม่วง มะละกอ กล้วย และส้มเขียวหวาน ซึ่งนอกจากใช้บริโภคเองแล้วยังสามารถจำหน่ายให้กับชุมชนใกล้เคียงหรือส่งตลาดได้
– พืชผักสวนครัว ชาวบ้านปลูกผักสวนครัวหลากหลายชนิด เช่น กะเพรา โหระพา ผักบุ้ง ตำลึง และฟักทอง โดยเน้นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งลดการใช้สารเคมีและรักษาคุณภาพดิน ผักเหล่านี้สามารถใช้เป็นอาหารในครัวเรือนและลดค่าใช้จ่ายด้านอาหารได้
ปัญหาสิ่งแวดล้อม
1. มลพิษจากการเกษตร: การใช้สารเคมีในการเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี ส่งผลต่อสุขภาพของผู้คนและสัตว์น้ำในบริเวณนั้น
2. การตัดไม้ทำลายป่า: ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อก่อสร้างทางรถไฟที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
3. ปัญหาการบริหารจัดการขยะ: ที่ชาวบ้านจัดการกันเองนำไปเทรวมกันไว้ที่บ่อขยะเมื่อถึงเวลาก็จะเผาขยะเหล่านั้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ปัญหาของหมู่บ้านนี้ ช่างคล้ายคลึงกับ สารคดีเรื่อง Reflection a walk with water ที่ในเรื่องนี้ ได้พูดถึงปัญหาภัยเเล้งว่าถ้าเกิดเราขาดเเคลนน้ำ จะมีผลกระทบต่อสิ่งเเวดล้อมเเละสิ่งมีชีวิตในพื้นที่อย่างไรบ้าง
สารคดีเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสื่อพลเมือง ตรงที่เป็นการนำเสนอเรื่องราวกับกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำขาดแคลน โดยสื่อพลเมืองมีหน้าที่เป็นสื่อกลางให้แก่กลุ่มคนในพื้นที่นั้นเพราะคนในพื้นที่ไม่มีช่องทางในการสื่อสารเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นสื่อพลเมืองจึงมีหน้าที่เป็นช่องทางให้แก่คนชุมชนนั้นๆ
แนวคิดเกี่ยวกับสารคดีชุดนี้สุดท้ายแล้วพยายามที่จะเป็นกระบอกเสียงเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ